ฉ้อฉลโครงการรับจำนำข้าว - พลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี


    คณะอนุกรรมาธิการติดตามการตรวจสอบการระบายข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวในคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ของวุฒิสภาตรวจสอบพบว่า 

๑.  การขายข้าวสารในระบบ G to G ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์เนื่องจากตัวแทนรัฐบริหารจัดการโดยบกพร่องมีการเอื้อประโยชน์ต่อกัน และทุกกระบวนการมีการฉ้อฉล ปิดบังข้อมูล ยากต่อการตรวจสอบ 

๒.  การขายข้าวสารในประเทศ มีการอนุมัติระบายข้าวแบบบรรจุถุงจำนวน ๒.๕ ล้านตัน โดยอ้างว่าจะนำไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้และที่ประสบภัยพิบัติ โดยมีราคาต้นทุนข้าวสารเพียงกึ่งหนึ่งของราคาตลาดและนำเอาระบบการปรับปรุงถุงมาบวกเพิ่ม แล้วนำไปขายในราคาถูก ดังนี้ 

๒.๑  ร้านถูกใจขายข้าวสารได้เพียง ๕๙,๕๐๐ตันเศษ ใช้งบประมาณจำนวน ๑,๓๒๐ล้านบาท แต่ต้องยุติโครงการเนื่องจากการได้รับการส่งมอบล่าช้าและจำกัดจำนวน 

๒.๒  โครงการธงฟ้าและร้านค้าสวัสดิการ มีการขายข้าวสารจำนวนน้อยเพียง ๒,๖๘๐ ตัน เพียงเพื่อประชาสัมพันธ์ว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) และรัฐบาลขายข้าวราคาถูกให้ประชาชน 

๒.๓  ขายข้าวให้กรมราชทัณฑ์และสถานพินิจจำนวน ๙,๗๐๔ ตัน ราคาตันละ ๑๐,๐๐๐ บาท  
ซึ่งสูงกว่าการขายให้กับประชาชน ในราคาตันละ ๗,๖๒๕ บาท  

๒.๔  ไม่มีการขายข้าวสารถุง องค์การคลังสินค้า (อคส.) ราคาถูกในร้านค้าทั่วไป แต่มี การลดราคาข้าวสารที่นำไปบรรจุถุงร้อยละ ๕๐  และยังออกค่าทำถุงให้โดยต้องเสียค่าปรับปรุงบรรจุถุงๆละ ๒๕.๒๖ บาท (ตันละ ๕,๐๐๐ บาท) ทำไห้รัฐจะได้รับค่าข้าวสารตันละประมาณ ๒,๕๐๐ บาทเศษ แต่ข้าวสารถุงดังกล่าว 
ไม่มีการขายให้กับประชาชนในส่วนนี้แต่อย่างใด ผู้เป็นตัวแทนจำหน่ายในร้านทั่วไปกลับขายโควต้าเกือบทั้งหมดให้กับโรงสีที่ปรับปรุงบรรจุถุง และโรงสีที่ปรับปรุงกลับเอาไปขายเป็นกระสอบในราคาตลาด หรือทำข้าวถุง 
ในตราอื่นและขายในราคาแพง จากราคาปกติประมาณ ๑๕,๗๕๐ บาท ต้องขาดทุนประมาณตันละ ๒,๕๐๐ บาทเศษ จึงทำความเสียหายให้แก่รัฐไปประมาณกว่า ๗,๐๐๐ล้านบาท หากทางคณะกรรมาธิการฯไม่มีการตรวจสอบและดำเนินการจนครบ ๒,๕๐๐,๐๐๐ ตัน รัฐจะเสียหายจากราคาปกติในตลาดประมาณกว่า ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท ถ้าคิดราคาจำนำจะเสียหายกว่า ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท 

๒.๕  รัฐบาลได้มีการอนุมัติวงเงินเพื่อนำไปชดเชยค่าเสียหายจากมติ กบข. ที่ให้จัดทำข้าวสารถุงลดราคาลงเพียงกึ่งหนึ่งของราคาตลาด และได้มีการปรับปรุงบรรจุถุง แต่กลับมีการขายข้าวในราคาปกติ 
จึงเป็นการอนุมัติที่ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการและคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการตรวจสอบต่อไป 

นอกจากนี้เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ พล.ต.ท ยุทธนา ไทยภักดี รองประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวโดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรกรรมาธิการได้ข้อมูลและหลักฐานว่ามีการสั่งซื้อข้าวท่อนและปลายข้าวจากประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพฤติการณ์ในทางที่จะทำให้กระบวนการจำนำข้าวเสียหายมากยิ่งขึ้นจะได้มีการตรวจสอบต่อไป


ข้อมูลเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2557 17:07:10 ปรับปรุงล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 05:13:07 มีการเปิดอ่าน 2945 ครั้ง Share