สำนักกำกับและตรวจสอบ

นายเฉลิมพล  เอกอุรุ  และนายสุพจน์  ไข่มุกด์   ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ผู้ทรงคุณวุฒิสาขารัฐศาสตร์  รัฐประศาสนศาสตร์  หรือสังคมศาสตร์อื่นซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารราชการแผ่นดินอย่างแท้จริง  ตามมาตรา  ๒๐๔  (๔)  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  ๒๕๕๐  จะมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์  ในวันที่  ๑๘  สิงหาคม  ๒๕๕๘  และในวันจันทร์ที่  ๓๑  สิงหาคม  ๒๕๕๘  ตามลำดับ  ทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ตามมาตรา  ๒๐๙  วรรคหนึ่ง  (๒)  ของรัฐธรรมนูญ  ซึ่งจะทำให้ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่างลง  ๒  ตำแหน่ง  จากจำนวนคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีจำนวนทั้งสิ้น  ๙  คน    

เนื่องจากได้มีประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ฉบับที่  ๔๘/๒๕๕๗  ลงวันที่  ๒๙  พฤษภาคม  ๒๕๕๗  เรื่อง  การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง  กำหนดว่า  ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  แทนตำแหน่งที่ว่าง  ให้ดำเนินการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่เคยดำเนินการสรรหามาแล้วตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  ๒๕๕๐  ซึ่งมาตรา  ๒๐๖ (๑)  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  ๒๕๕๐  กำหนดให้คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ทำหน้าที่สรรหาและคัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน  ๓๐  วันนับแต่วันที่มีเหตุทำให้ต้องมีการเลือก 

คณะกรรมการสรรหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  มีจำนวน  ๕  คน  ประกอบด้วย  ประธานศาลฎีกา  ประธานศาลปกครองสูงสุด  ประธานสภาผู้แทนราษฎร  ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร  และประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญซึ่งเลือกกันเองให้เหลือหนึ่งคนเป็นกรรมการ

โดยกรอบการสรรหาและคัดเลือกจะแบ่งเป็นสองช่วงเวลา  ดังนี้

๑.  กรณีสรรหาและคัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่แทน นายเฉลิมพล  เอกอุรุ จะเริ่มตั้งแต่วันที่  ๑๘  สิงหาคม  ๒๕๕๘  ถึง  วันที่  ๑๖  กันยายน  ๒๕๕๘

๒.  กรณีสรรหาและคัดเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่แทน นายสุพจน์  ไข่มุกด์  จะเริ่มตั้งแต่วันที่  ๓๑  สิงหาคม  ๒๕๕๘  ถึง  วันที่  ๒๙  กันยายน  ๒๕๕๘